Monday, April 2, 2007

A Trip to Nepal (Preparing Stage)

เข้าย่างเดือนเมษา เดือนแห่งวันหยุดและการท่องเที่ยวประจำปี กำหนดการณ์ปีนี้ พุ่งเป้าหมายไปที่ เนปาล ประเทศแห่งเทือกเขาหิมาลัยและแหล่งกำเนิดพุทธศาสนา คือจริงๆอยากไปดูหิมาลัยแบบเต็มๆตา Panorama แถมด้วยชีวิตผู้คน ความเป็นอยู่ บ้านเรือน ในหุบเขา Kathmandu และเมือง Pokhara ต้นทาง super hot hit ของการ Trekking และTrip นี้ก็ไปแบบไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย เพราะมี 'สาวบิ๋ม' ตกลง (หลุมพลาง​) ไปด้วย และยังจะไปเจอ 'ชิ้น' และครอบครัวที่อยู่ที่เนปาลอีก ซึ่งต้องไปขอเกาะอาศัย บ้านคุณนายชิ้นนอนฟรีที่ Kathmandu ทริปนี้เลยไม่น่ามีเหงา
ตั้งใจว่าจะไปซัก 8 วัน และวันที่ลงตัวของนักท่องเที่ยวแบกเป้ขาจรทั้ง 2 คน ก็ออกมาเป็น 11-18 เมษา ได้วันแล้วต้องรีบจัดการจองตั๋วทันที เพราะช่วงเมษามหาสงกรานต์นี้ ผู้คนใจตรงกัน ออกเดินทางกันเยอะ ดังนั้นตั๋วเดินทางไปประเทศฮิตๆ จะหายากถึงยากมากที่สุด เที่ยวนี้จองตั๋วจาก CS And S Inter Travel เป็น agency ขายตั๋วอยู่แถวข้าวสาร ซึ่งคุณนายชิ้นให้เบอร์มา ได้ตั๋ว TG ในราคา 2 หมื่นนิดหน่อย ค่อนข้างแพงเชียวแหล่ะ แต่ก็ต้องเอาแล้ว เพราะถ้าอยากได้ถูกกว่านี้ต้องไป Royal Nepal Airline ซึ่งขึ้นชื่อมากๆเรื่องการ delay เป็นกิจวัตร ดังนั้นไปการบินไทยดีกว่า จ่ายแพงขึ้นอีกนิด แต่ชัวร์ว่าถึงที่หมายตามกำหนดแน่ๆ ถึงจะจอง TG แต่ก็ยังไม่พ้นต้องมีลุ้นกันอีกเล็กน้อย เพราะขากลับเราติด Waiting list ลุ้นรออยู่ 2-3 วันก็ได้ confirmation กลับมา รีบออกตั๋วเป็น e-ticket จองที่นั่งเสร็จสรรพในทันใด ตามโพยบอกไว้ว่า ขาไปต้องนั่งติดหน้าต่างด้านขวา เพื่อจะได้เห็นหิมาลัยตอนเครื่องจะลง ส่วนขากลับต้องนั่งด้านซ้าย แต่พอ check ที่นั่ง ปรากฏว่าพวกเรามีบุญได้ที่นั่งเห็นวิวหิมาลัย เฉพาะตอนขาไปเท่านั้น ก็ยังดีวะ ส่วนขากลับถ้าอยากเห็นวิวนัก ก็ให้ชะเง้อคอยาวข้ามแถวที่นั่งฝั่งขวา (แถว JK) ไปยังที่นั่งฝั่งซ้าย (แถว A) เอาแล้วกัน

เสร็จจากเรื่ิองตั๋วก็มาเป็นเรื่อง visa จริงๆก็ไปขอ visa on arrival ได้ แต่ขี้เกียจไปต่อคิวทำ visa ที่สนามบิน ขอเตรียมพร้อม ทำไว้ตั้งแต่ที่บ้านเราก่อนดีกว่า...อุ่นใจดี สถานฑูตเนปาล เป็นสถานฑูตเล็กๆอยู่ตรงซอยสุขุมวิท 71 ตรงข้ามห้างจัสโก้ คือถ้าไม่รู้ข้อมูลพิกัดที่ตั้งมาก่อน อาจจะหาไม่เจอเพราะเล็กจริงๆ วันนั้นไปถึงหน้าสถานฑูตตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง เห็นประตูยังปิดอยู่ ยังคิดอยู่ว่าเค้าปิดวันจันทร์หรือเปล่าหว่า? รออีกสักหน่อยก่อนดีกว่า ว่าแล้วก็เสี่ยงตายข้ามถนนไปเดินเตร็ดเตร่ที่จัสโก้ แบบอิดโรย ระโหยโรยแรง หน้าตาเป็น zombie มากๆ จากการอดนอนทั้งคืนมาจากห้องตัดต่อ ยังดีได้กาแฟอัดเข้าไปช่วยระงับอาการง่วง แล้วก็นั่งรอกึ่งหลับอยู่ฝั่งจัสโก้สักพัก ใกล้ๆ 9 โมง มีคนมาเปิดประตูสถานฑูต เย้! วันนี้มาไม่เสียเที่ยวโว้ย แถมได้ sign ลงสมุด visitor ประจำวันของสถานฑูตเป็นคนแรกด้วย น่าภูมิใจสุดๆ :-) ตอนเดินเข้าไปใน office เจ้าหน้าที่เพิ่งจะเริ่มทำงานพอดี ขอใบสมัครมากรอกข้อมูลระหว่างรอคุณบิ๋ม สักพักบิ๋มมาถึงด้วยมอเตอร์ไซด์รับจ้าง จากหน้าปากซอย ไม่่น่าเชื่อว่าคุณหนูบิ๋มจะลุยได้ขนาดนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดีก่อนเริ่มเดินทางนะเนี่ย พอกรอกข้อมูลเสร็จ ก็ยื่นพร้อม passport + รูปถ่าย 1 รูป + ค่าธรรมเนียม 1,400 บาทหรือจะจ่ายเป็น USD ก็ได้ ถ้าเป็น USD ก็จ่าย 30 เหรียญ ตอนแรกพวกเราจะจ่ายเป็น USD เพราะคำนวณแล้วว่าถูกกว่ากันเห็นๆ จากอัตราแลกเปลี่ยน 35 บาท/ดอลลาร์ แต่พอดีว่ามีแบ็งค์ 100 เจ้าหน้าที่ส่ายหน้าบอกไม่มีทอน เลยจำใจจ่ายเป็นบาทแทน เอาวะจะได้เสร็จๆไป ยื่นเอกสารเสร็จ เจ้าหน้าที่บอกให้นั่งรอรับได้เลย ดีจัง...ไม่ต้องเสียเวลากลับมารับ passport อีกรอบ ง่ายๆ ไม่มีขั้นตอนให้ยุ่งยากวุ่นวาย พูดถึง passport...ดีนะที่บิ๋มเช็คดูก่อนมาทำ visa ไม่กี่วัน เพราะเล่มเก่าหมดอายุพอดี เกือบอดไป ทริปนี้บิ๋มเลยได้ไปถอย e-passport เล่มใหม่เอี่ยมอ่อง เอามาประเดิมเปิดฉากด้วย nepal visa เป็นประเทศแรกของเล่ม

เมื่อได้ visa มาให้อุ่นใจเรียบร้อย บิ่มอาสาไปแลกเงินให้ที่หลังการบินไทย ส่วนเราขอตรงดิ่งกลับบ้านนอนเอาแรงก่อน หลังจากนี้ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือกับการศึกษาหาข้อมูลท่องเที่ยว ทั้งจากหนังสือและใน web พอได้ข้อมูลมาสักพัก แผนการเดินทางคร่าวๆ ก็ออกมาตามระยะเวลาที่จะไป 8 วัน 7 คืน โดยตั้งใจว่าจะอยู่ Kathmandu 2 วัน จากนั้นบินไป Pokhara เพื่อไป Trekking 4 วัน แล้วบินกลับมาอยู่ Kathmandu อีก 2 วันที่เหลือ ซึ่งดูแล้วน่าจะโอนะ กะเอาไว้ว่าจะไปลงรายละเอียดอีกที ตอนไปถึง nepal แล้วดีกว่า เพราะยังไงก็มีคุณนายชิ้นเป็นเจ้าถิ่นอยู่ ถามจากเจ้าถิ่นโดยตรง น่าจะได้ข้อมูลที่ดีกว่านะ ดีไม่ดีใช้ให้พาเที่ยวด้วยซะเลย อิอิ!!

Note:
Ticket Agency: CS AND S INTER TRAVEL
Address: 81 New Joe Guest House, Trok Mayom
Tel: 02.282.6638 | Contact: K. Nok

No comments: